ยาวหน่อยนะ แต่อยากให้อ่านกัน อีกไม่นานการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 1800 2600 MHz และ 26 GHz เพื่อนำไปใช้กับเทคโนโลยี 5G ในบ้านเราก็จะเสร็จสิ้นไปแล้วนะครับ นั้นเป็นสัญญาณว่าในอีกไม่นานบ้านเราก็จะมี 5G ไว้ใช้กันแล้ว หันมามองดูอุปกรณ์ที่เราถืออยู่ในมือแล้วรู้สึกเลยนะครับว่ามันเริ่มที่จะสั่นอยากเปลี่ยนใหม่เสียเหลือเกินเพราะมองยังไง๊ยังไงมือถือที่เราใช้มันก็ไม่รองรับ 5G กับเค้าแน่ๆ งั้นวันนี้เรามาสำรวจกันก่อนดีกว่าครับว่าแบรนด์มือถือไหนออกสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 5G แล้วน่าใช้งานกันบ้าง ทำการบ้านไว้จะได้หยอดกระปุกเก็บเงินไว้ได้ทัน
เริ่มกันที่แบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวมือถือเรือธงกันไปหมาดๆอย่าง Samsung กันดีกว่า
ปีนี้ทาง Samsung ก็ออกสมาร์ทโฟนเรือธงออกมาคือ
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ซีพียู Exynos 990 Octa Core แรม 12/16 GB หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128/512GB กล้องจัดเต็ม 4 ตัว เลนส์หลักความละเอียด 108MP + 48MP + 12MP+ TOF รองรับถ่ายวิดีโอ 8K ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 40MP แบตเตอรี่จุอยู่ที่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว
นอกจาก Samsung จะมี Samsung Galaxy S20 Ultra สมร์ทโฟนเรือธงของปีนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ Samsung ก็ยังออกสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 5G มาแล้วบ้างอย่าง
Samsung Galaxy S10 5G ที่เป็นสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของเกาหลี มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.7 นิ้ว Dynamic AMOLED การแสดงผลเป็นแบบ Infinity-O Display ความละเอียด QHD+ ในอัตราส่วน 19:9 ทำจากวัสดุกระจก Corning Gorilla Glass 6 รองรับ Ultrasonic Fingerprint มีความบางอยู่ที่ 7.9 มิลลิเมตร แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับการชาร์ตเร็ว Super Fast Charging 25W การขาร์จแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 15W และมีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging 9W กล้องหลัง 4 ตัวเลนส์แบบ Telephoto ความละเอียด 12 MP, Wide-angle Camera ความละเอียด 12 MP,Ultra Wide Camera ความละเอียด 16 MP และ 3D Depth Camera ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบกล้องคู่ Selfie Camera ความละเอียด 10 MP และ 3D Depth Camera บันทึกวิดีโอได้แบบ 4K 60FPS และรองรับ Super Slow Motion ความละเอียด HD 960FPS
Samsung Galaxy Fold ความแปลกใหม่ที่ซัมซุงจับมาใส่ไว้ในหน้าจอเพื่อให้แฟนๆทั่วโลกได้ตื่นเต้นกันในงานฉลองครบรอบ 10 ปี Samsung Galaxy กับเทคโนโลยีจอพับได้ที่สร้างจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน Samsung Galaxy Fold มาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาดเมื่อกางออก 7.3 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 ความละเอียด QHD+ และจอหน้าใช้ชนิดจอ Super AMOLED ขนาด 4.6 นิ้วความละเอียด HD+ ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855 หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB พื้นที่ความจำภายใน 512GB กล้องหลัง 3 ตัว Ultra Wide Camera ความละเอียด 16 MP, Wide-angle Camera ความละเอียด 12 MP,และ Telephoto ความละเอียด 12 MP ส่วนกล้องหน้าคู่ Selfie Camera ความละเอียด 10 MP และ RGB Dept Camera ความละเอียด 8MP และกล้องในส่วน Cover เป็นกล้อง Selfie Camera ความละเอียด 10 MP สามารถบันทึกวิดีโอ 4K 60FPS มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมืออยู่ด้านข้างตัวเครื่อง แบตเอตรี่ 4,235 mAh รองรับ Fast Charginh, Wireless Charging และ Wireless Powershare
ข้ามมาที่แบรนด์จากทางประเทศจีนกันบ้างอย่าง Huawei ก็มี
Huawei เองก็ออก Huawei Mate X ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยี 5G ซึ่งแน่นอนว่าต้องมาพร้อมนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมายหนุ่งในนั้นคือหน้าจอที่พับได้ นอกจากนี้ยังมีชิปประมวลผล CPU Hisilicon Kirin 980 ที่ทำงานร่วมกับ Modem Balong 5000 ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5G แบบมัลติโหมดรุ่นแรกของโลก ที่ผลิตแบบ 7 นาโนเมตร รองรับการส่งสัญญาณทั้ง 2G, 3G, 4G และ 5G นอกจากนี้ยังเป็นชิปเซ็ตที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดในคลื่นความถี่ระดับ 5G คือ 4.6 กิกะบิตต่อวินาทีที่คลื่นความถี่ต่ำกว่า 6 กิกะเฮิร์ตซ์ หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB ความจำในตัวเครื่อง 512GB และรองรับหน่วยความจำภายนอกสูงสุด 256GB 3 กล้องไลก้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI เผยสีสันภาพถ่ายที่น่าดึงดูดขึ้น ออกแบบมาให้มีมุมมองใหม่ที่กว้างขึ้น ด้วยเลนส์มุมกว้าง 40 MP ที่ความละเอียดสูง และสามารถถ่ายภาพระยะไกลให้คมชัดด้วยเลนส์ Telephoto 8 MP ใหม่กว่าด้วยเลนส์ Leica Ultra Wide Angle ที่ถ่ายภาพมุมกว้างออกมาได้อยากเพอร์เฟ็กต์และภาพถ่ายแบบมาโคร
และ Huawei ยังมี Huawei Mate 20 X (5G) ที่ปรับมาใช้ชิปประมวลผล CPU Hisilicon Kirin 980 ทำงานร่วมกับ Modem Balong 5000 แบบเดียวกับรุ่น Mate X ทำให้รองรับ 5G ได้ และมาพร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และความจำภายในเครื่อง 256 GB และรองรับหน่วยความจำภายนอกอีก 265GB
มาดูกันที่ OPPO กันต่อกับ OPPO Reno 5G จากซีรีย์ Reno ที่มาในรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ OPPO Reno 10X Zoom หน้าจอแบบ Panoramic Screenไร้ขอบ ขนาด 6.6 นิ้ว กระจก Corning Gorilla Glass 6 ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 855 หน่วยความจำ RAM 8GB ความจำภายในเครื่อง 256GB รองรับความจำภายนอกสูงสุด 256GB
กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องความละเอียด 48MP, 8MP, 13MP ซูมได้มากถึง 10x Hybrid Zoom และ 60x Digital Zoom กล้องหน้าความละเอียด 16MP เป็นกล้องเลื่อนขึ้น ลง แบบใหม่ Pivot-Rising Camera ที่สามารถซ่อนทั้งกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์ และไฟแฟลชของกล้องหลัง
และถ้าพูดถึงแบรนด์จากจีนที่จะพลาดไม่ได้ก็ต้องแบรนด์นี้เลยครับ Xiaomi Mi ที่สร้างสรรเทคโนโลยีให้กับผู้บริโภคอย่างเราได้ใช้กับแทบจะทุกอย่างก็ยังมี Xiaomi Mi MIX 3 5G ที่เป็นสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรก พร้อมดีไซน์เอกลักษณ์ที่ออกแบบให้ตัวเครื่องใช้กลไกแบบเลื่อนสไลด์ซ่อนกล้องหน้า และสามารถตั้งค่าการสไลด์เพื่อเรียกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆของโทรศัพท์ เช่น สายเรียกเข้า หรือการเปิดแอปพลิเคชั่นกล้อง เป็นต้น
Mi MIX 3 5G มาพร้อมจอ Samsung AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สัดส่วน 19.5:9 ใช้การผสมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon X50 กับ Modem สำหรับ 5G ทำให้สามรถเชื่อมต่อคลื่น Sub-6GHz ที่รองรับความเร็วในการดาวน์โหลดระดับ Gigabit-class ที่เร็วกว่าเครือข่าย 4G ได้หลายสิบเท่า
OnePlus 7 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้สเปกเดียวกับรุ่น 7 Pro และมีการผสานชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon X50 Modem สำหรับ 5G เข้าไป หน้าจอเป็นแบบ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด QHD+ รองรับ 90Hz Refresh Rate และมีฟีเจอร์แสงสีฟ้าที่ช่วยถนามสายตา และมีกล้องหลัง 3 ตัว เป็นกล้องความละเอียด 48MP, Ultra Wide Angle Lens ความละเอียด 16MP และ Telephoto Lens ความละเอยด 8MP ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบ Pop-Up ความละเอียด 16MP
LG V50 ThinQ รุ่นนี้สามารถรองรับ 5G และมีกล้องหลัง 3 ตัวเป็นเลนส์ Telephoto Zoom ความละเอียด 12MP, Super Wide ความละเอียด16MP และเลนส์ Standard ความละเอียด 12MP ส่วนกล้องหน้ามี 2 ตัวเป็นเลนส์ Standard ความละเอียด 8MP และ Wide Angle ความละเอียด 5MP ในส่วนหน้าจอเป็น OLED FullVision ขนาดใหญ่ 6.4 นิ้ว ความละเอียดในระดับ QHD+ ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 855 Modem Snapdragon X50 ไว้ร้องรับ 5G มีหน่วยความจำ Ram 6GB พื้นที่ความจำภายใน 128GB รองรับความจำภายนอกสูงสุดถึง 2TB
ZTE บ้านเราอาจจะไม่คุ้นกับแบรนด์นี้ซักเท่าไหร่นะครับ แต่ ZTE เองก็เป็นอีกแบรนด์ที่มีมานานประมาณและยังเป็นแบรนด์ที่ให้บริการเรื่องระบบโครงข่ายโทรศัพท์รวมไปโครงข่าย 5G ให้กับประเทศต่างๆด้วย
สำหรับ ZTE ก็มีสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 5G เหมือนกันอย่างรุ่น ZTE Axon 10 Pro 5G ทีมีขนาดหน้าจอ AMOLED 6.47 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้ชิปประมวลผล Qaulcomm Snapdragon 855 พร้อม Modem ทีรองรับสัญญาณ 5G Qualcomm Snapdragon X50 มีหน่วยความจำ RAM 6GB และ 8GB พื้นที่หน่วยความจำภายใน 128GB และ 256GB รองรับ MicroSD Card สูงสุดถึง 2TB
ในส่วนของกล้องด้านหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP, Wide Angle 125 องศา ความละเอียด 20MP และกล้อง Telephoto ความละอียด 8MP กล้องหน้ามี 1 ตัวความละเอียด 20MP แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
ทั้งหมดนี้เป็นแค่สมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 5G ที่ออกมาและมีวางขายในตลาดแล้วนะครับ แต่ต่อจากนี้ไปแบรนด์ต่างๆก็น่าจะรุกทำการตลาดเข้าสู่ระบบ 5G กันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสมาร์ทโฟนรุ่นต่อจากนี้ไปจะเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งาน 5G เกือบทั้งหมด อย่าง iPhone ที่นับตั้งแต่รุ่น 11 เป็นต้นไปก็มีข่าวออกมาว่าจะเป็นผลิตภัณฑืที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยี 5G ทั้งหมด