จากข่าวที่บริษัท Uber บริษัทผู้ให้บริการรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่น กำลังจะเริ่มต้นโครงการ แท็กซี่บินได้ อูเบอร์แอร์ UBER AIR ร่วมกับองค์การนาซาและหน่วยงานด้านเทคโนโลยีอวกาศของสหรัฐฯอีกหลายแห่ง โดยแท็กซี่ต้นแบบของแท็กซี่บินได้นี้ เป็นเหมือนโดรนขนาดยักษ์ มีใบพัดในแนวราบ 4 ใบ และที่หางเครื่องอีก 1 ใบ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 4 คน (กับอีกหนึ่งนักบิน) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยี Hybrid บินด้วยความเร็ว 240 ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระดับความสูง 300 ถึง 600 เมตร ซึ่งการเดินทางด้วยแท็กซี่บินได้นี้ เมืองต่างๆต้องการอาคารที่จะมารองรับ เพื่อเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารจากรถลอยไฟนี้ไปสู่ระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ซึ่ง Skyport บางแห่งอาจรองรับเที่ยวบิน UBER AIR ได้มากถึง 200 เที่ยวต่อชั่วโมง หรือ 1 ลำในทุก 24 วินาที
โดย ในเรื่องนี้ UBER ได้เตรียมการ ให้สถาปนิกและวิศวกร ร่วมกันออกแบบอาคาร Skyport สำหรับโครงการ UBER AIR เอาไว้หลายแบบเพื่อให้ทันแก่ความต้องการสำหรับโครงการที่จะเริ่มต้นทดสอบในปี 2563 ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส หรืออาจจะเป็นนครลอส แองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะเปิดให้บริการจริงในปี 2566
ซึ่งหากใครยังจำกันได้ ในงานอีเวนท์ UBER Elevate Summit เมื่อปี 2017 ทาง UBER เคยเผยเป้าหมายในการพัฒนา UBER AIR หรือบริการแท็กซี่ลอยฟ้า ซึ่งดูเหมือนว่า โปรเจ็คดังกล่าวได้คืบหน้าไปอีกสเต็ปแล้ว เมื่อในงาน UBER Elevate Summit 2019 ได้มีการเผยโฉมคอนเซ็ปต์ของ Skyport หรือสถานีสำหรับบริการ UBER AIR ออกมาให้ชมกัน
โดยคอนเซ็ปต์ Skyport ที่ถูกนำมาแสดงในงานนั้น ถูกออกแบบโดยบริษัทสถาปนิก 8 แห่ง โดย SHOP Architects สตูดิโอออกแบบและ Gensler บริษัทสถาปนิกได้เผยโฉมการออกแบบ “skyports” จุดขึ้นลงสำหรับบริการแท็กซี่ลอยฟ้าของ Uber
UBER AIR Skyports ถูกออกแบบมาด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและเข้าถึงได้ง่าย เพื่อทำให้เห็นภาพถึงโครงสร้างต่างๆที่ตั้งใจจะนำมาใช้เมื่อเปิดให้บริการจริง ที่คาดว่าน่าจะเร็วสุดคือปี 2023
นอกจากสองบริษัทที่เอ่ยไปแล้วก็ยังมี แนวคิดที่ออกแบบโดย Pickard Chilton , The Beck Group, Boka Powell, Corgan, Humphreys & Partners Architects และ Mithun
ทางหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ UBER บอกว่า “การเปิดตัว UBER AIR ใกล้จะเปิดตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ภาพการออกแบบเหล่านี้จะช่วยสร้างวิสัยทัศน์และโครงสร้างที่จำเป็นสำหรับชุมชนที่เราวางแผนเข้าไปให้บริการ” ซึ่งตัวสถานีนั้นถูกออกแบบให้รองรับเมืองอย่างดัลลัส, แอลเอและเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลักที่ทางอูเบอร์ประกาศเตรียมให้บริการแท็กซี่บินได้
แต่ละแนวคิดจะสนับสนุนทั้งการเดินทางภาคพื้นดินและการเดินทางในอากาศมีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะเพื่อให้เดินทางต่อได้ไปยังพื้นที่โดยรอบได้สะดวกขึ้น ตัวสถานีจะมีจุดจอดจักรยานและสกูตเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ด้วย
ส่วนเครื่องที่จะนำมาให้บริการนั้นก็มีการเผยโฉมไปแล้ว ซึ่งหน้าตาจะเป็นลูกผสมระหว่างเครื่องบินและโดรน สามารถบินขึ้นลงในแนวดิ่งได้สบายๆ ทำให้ใช้พื้นที่ในการขึ้นบินและลงจอดไม่มาก พลังงานหลักจะใช้พลังงานไฟฟ้า
แรกเริ่มเดิมทีนั้น UBER AIR ถูกวางไว้ให้เปิดใช้งานที่ดูไบเป็นแห่งแรก แต่ทาง Susan Anderson ผู้จัดการทั่วไปของ UBER ออสเตรเลีย เผยว่า เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียจะเป็นเมืองแห่งแรกที่จะพร้อมทดสอบบริการ UBER AIR ก่อนจะวางแผนขยายบริการไปยังเมืองอื่นๆ ของออสเตรเลียในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งนอกจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ทาง UBER ยังได้ทำการทดสอบที่บ้านเกิดอย่างสหรัฐฯ โดยคาดว่า บริการ UBER AIR จะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2023 นี้
================
Technopolis มหานครอัจฉริยะ
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.30 – 13.00 น.
ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ติดตามข่าวสารจาก TKNonline
เฟสบุคแฟนเพจ https://www.facebook.com/TKNOnline
Subscribe https://www.youtube.com/TKNonline
และเว็ปไซต์ https://tknonline.com/ http://www.splash-inter.co.th/