กรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งสกัดการใช้เทคโนโลยี 5G ของ HUAWEI ในสหรัฐ ภายใต้คำสั่งฉุกเฉิน Blacklist บริษัทที่อ้างว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ต่อมา Google ก็ถูกบีบให้เลิกทำธุรกิจกับ HUAWEI ตามคำสั่งรัฐบาล จำกัดการเข้าถึงระบบปฏิบัติการ Android
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามธุรกิจสหรัฐร่วมงานกับ HUAWEI เป็นการชั่วคราว 90 วัน โดยอนุญาตให้มีการอัพเดทซอฟท์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์ของ HUAWEI ได้ โดยการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนบังคับใช้จนถึงวันที่ 19 สิงหาคมนี้
นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งอาณาจักร HUAWEI ให้สัมภาษณ์สื่อทางการจีนว่า
เรารู้สึกขอบคุณบริษัทสหรัฐอย่างมาก พวกเขามีส่วนสนับสนุน HUAWEI อย่างดี และที่ปรึกษาหลายคนของเรามาจากบริษัทอมริกัน อย่าง ไอบีเอ็ม หากจะโทษก็เป็นนักการเมืองสหรัฐ การกระทำของพวกเขา ประเมินความแข็งแกร่งของเราต่ำเกินไป
แม้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยอมผ่อนผันด้วยการให้เวลา 90 วัน ในการซื้อสินค้า HUAWEI ในสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการดูแลระบบเครือข่าย แต่นายเหริน กล่าวว่า เวลา 90 วันไม่ได้มีความหมายมากนัก และเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เวลานี้ HUAWEI กับ Google กำลังหารือกันว่าจะตอบสนองการสั่งแบนจากรัฐบาลวอชิงตันอย่างไร และชมว่า Google เป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบสูงมาก
สำหรับการเข้าถึงส่วนประกอบสำคัญอย่างชิพนั้น ผู้ก่อตั้ง HUAWEI กล่าวว่า ชิปครึ่งหนึ่งที่หัวเว่ยใช้ในการผลิตอุปกรณ์ มาจากสหรัฐ แต่อีกครึ่ง หัวเว่ยผลิตเอง
“HUAWEI ผลิตชิพเหมือนกับชิพที่สหรัฐผลิต แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ซื้อจากสหรัฐ เราไม่อาจแยกตัวโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก”
ทั้งกล่าวด้วยว่า ในแง่ของ 5G HUAWEI มีความมั่นใจว่ายังไม่มีรายใดสามารถตามทันได้ในระยะ 2-3 ปีนี้ แต่ทางบริษัทยังต้องศึกษาเทคโนโลยีจากสหรัฐในแง่ความกว้างและความลึก สหรัฐยังเหนือกว่าจีนมากในภาพรวม
เมื่อนักข่าวสอบถามต่อว่า HUAWEI อาจเผชิญกับสถานการณ์ลำบากไปอีกนานแค่ไหน นายเหริน ผู้ก่อตั้ง ตอบกลับไปว่า ให้ไปถามคำถามนี้จากประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมทั้งยืนยันว่า HUAWEI จะไม่ขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตสินค้า เพราะได้เตรียมการเป็นอย่างดี พนักงานของบริษัททำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อรับสถานการณ์เช่นนี้
================
Technopolis มหานครอัจฉริยะ
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.30 – 13.00 น.
ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ติดตามข่าวสารจาก TKNonline
เฟสบุคแฟนเพจ https://www.facebook.com/TKNOnline
Subscribe https://www.youtube.com/TKNonline
และเว็ปไซต์ https://tknonline.com/ http://www.splash-inter.co.th/
อ้างอิงข้อมูล คม ชัด ลึก, ข่าว คม ชัด ลึก