Tech Story: NASA ส่งคนไปดวงจันทร์จริงหรือเป็นเพียงเรื่องแหกตา?

ทฤษฎีสมคบคิด หรือ Conspiracy Theories ที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนที่สุดในโลก ต้องยกให้กับเคสของการที่ NASA ส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ในปี 1969 ที่ยังมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า สรุปแล้วเคยมีอเมริกันไปเหยียบดวงจันทร์มาจริงหรือไม่? หรือเป็นเพียงเรื่องโกหกแหกตาชาวโลกกันแน่?

ด้วยข้อมูลทุกๆ อย่างที่เรารู้เกี่ยวกับโครงการ Apollo 11 รวมถึงหลักฐานสนับสนุนมากมายของทาง NASA แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังเป็นความสงสัยของสาธารณชนจวบจนยุคปี 2018

และในประเด็นที่ทำให้การส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์ของ NASA เป็นข่าวขึ้นมาอีกรอบ นั้นก็เพราะเมื่อประมาณวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ การพบปะกันระหว่างคุณ Dmitry Rogozin ซึ่งเป็นหัวหน้าของ องค์การอวกาศรัสเซีย หรือ Roscosmos กับคุณ Igor Dodon ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศมอลโดวา โดยในคลิป ท่านประธานาธิบดีได้ถามหัวหน้าของ Roscosmos ว่า

“เมื่อ 50 ปีก่อน NASA ได้เคยลงจอดบนดวงจันทร์จริงหรือไม่?”

และเพื่อเป็นการตอบคำถามนี้ หัวหน้าของ Roscosmos ได้ออกมาประกาศชัดว่า ภารกิจต่อไปของพวกเขาคือ การพิสูจน์ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง โดยเขากล่าวว่า

“พวกเราได้วางเป้าหมายที่จะบินและตรวจสอบว่า เคยมีอเมริกันไปฝากรอยเท้าไว้บนดวงจันทร์จริงหรือไม่?”

โดยท่าทางของคุณ Dmitry Rogozin หัวหน้าหน่วย Roscosmos ในช่วงตอบคำถาม แสดงให้เห็นว่า เขารู้สึกตลกกับคำถามที่หลุดออกมาจากปากท่านประธานาธิบดีมอลโดวา และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียแสดงข้อสงสัยต่อรายละเอียดในโครงการ Apollo 11 ของ NASA

โดยในปี 2015 เคยมีข่าวตีพิมพ์ลงใน Izvestia ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัสเซีย โดยรายละเอียดในเนื้อข่าวระบุว่าคุณ Vladimir Markin ซึ่งเป็นตัวแทนหน่วยงานสืบสวน ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องการหายไปของฟิล์มภาพยนตร์บางส่วนที่หายไปจากเหตุการณ์เหยียบดวงจันทร์ในปี 1969 รวมถึงขอสอบถามทาง NASA เกี่ยวกับจุดพิกัดที่มีการเก็บตัวอย่างหินจากดวงจันทร์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงในช่วงปี 1972

โดยข้อมูลของทาง NASA ระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 1969-1972 ได้มีการส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ทั้งสิ้น 12 คน แต่กระนั้นคุณ Vladimir Markin ก็ยังกล่าวอย่างชัดเจนว่า

“พวกเราไม่ได้สงสัยว่า NASA ส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์มาจริงหรือไม่ และก็ไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับเรื่องฟิล์มภาพยนตร์ที่ทาง NASA อ้างว่าถ่ายบนดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน”

“แต่ในมุมมองของวิทยาศาสตร์ รวมถึงมุมมองด้านวัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์หรือผลงานใดๆ นั้นก็มีความสำคัญในฐานะที่เป็นมรดกของมวลมนุษยชาติ และเมื่อมีบางอย่างสูญหายไปโดยที่ไม่มีใครติดตามทวงถาม ก็นับว่าเป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น และการสืบสวนจะเปิดเผยว่าแท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ในเรื่องที่เกี่ยวกับการสูญหายไปของฟิล์มภาพยนตร์ต้นฉบับของโครงการ Apollo 11 นั้น ทางฝ่ายที่สนับสนุนแนวคิดว่า NASA เคยส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์จริง นั้นจะให้น้ำหนักกับระบบการจัดเก็บฟิล์มภาพยนตร์ที่ไม่ดีของทาง NASA ทำให้เกิดการสูญหายได้เป็นธรรมดา และการหายไปของฟิล์ม นั้นเป็นแรงส่งให้ทฤษฎีสมคบคิด นั้นมีความหนักแน่นมากขึ้น

และจากข้อมูลของทาง NASA ฟิล์มช่วงการลงจอดบนดวงจันทร์นั้นถูกวางสลับที่กับฟิล์มของเหตุการณ์อื่นๆ อีกกว่า 200,000 ฟิล์ม แถมยังมีการทำลายฟิล์มบางส่วนทิ้งไปเป็นการภายใน เพื่อลดภาระในการจัดเก็บอีกด้วย

ในส่วนทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวีดีโอการเหยียบดวงจันทร์ของโครงการ Apollo 11 นั้นก็กล่าวอ้างว่า สภาพแวดล้อมบนดวงจันทร์เป็นฉากที่สร้างขึ้นในสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ที่ไหนสักแห่ง และเป็นผลงานของนักสร้างสรรค์เอฟเฟคระดับมืออาชีพ ซึ่งก็เป็นคำกล่าวอ้างที่มีน้ำหนักพอควร เพราะถ้าย้อนกลับไปในยุค 50 ปีก่อน อเมริกาเป็นประเทศที่ก้าวหน้ามากเรื่องเทคนิคการถ่ายทำภาพยนตร์ และมันคงไม่ยากเลย ถ้าพวกเขาจะจำลองสภาพแวดล้อมบนดวงจันทร์ขึ้นมา

และถึงแม้ในภายหลังทาง NASA พยายามหยิบยกเหตุผลมากมายมาอธิบายให้กับคนที่อยู่ขั้วตรงข้าม แต่ก็ดูเหมือนว่าคนที่เชื่อทฤษฎีสมคบคิด จะไม่ยอมคล้อยตาม NASA เอาซะเลย โดยคุณ Mike Inchalik เจ้าหน้าที่ระดับบริหารของ Lowry Digital ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างแปลงฟิล์มภาพยนตร์ยุคเก่าของ NASA ให้เป็นสื่อวีดีโอแบบใหม่ กล่าวว่า “นักทฤษฎีสมคบคิด จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาอยากจะเชื่อเท่านั้น”

================

Technopolis มหานครอัจฉริยะ
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 – 12.30 น.
ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ติดตามข่าวสารจาก TKNonline
เฟสบุคแฟนเพจ https://www.facebook.com/TKNOnline
Subscribe https://www.youtube.com/TKNonline
และเว็ปไซต์ https://tknonline.com/ http://www.splash-inter.co.th/