Apple เปิดตัว iPhone XS และ XR ต้อนรับ Merry X’Mas ที่จะถึงปลายปีนี้

เปิดตัว iPhone XS และ XR ต้อนรับ Merry X’Mas ที่จะถึงปลายปีนี้

สิ้นสุดการรอคอยกับเหล่าสาวก Apple กับงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone XS (ไอโฟนเท็นเอส) และ iPhone XR (ไอโฟนเท็นอาร์) ถือเป็นการเปิดตัวสินค้าตามสไตล์ Apple ที่ดักไว้กับเทศกาลคริสมาสต์ที่จะมาถึงปลายปีนี้

เริ่มกันที่ iPhone XS เปิดตัวให้เลือกกันถึง 2 รุ่น 2 ขนาด คือ รุ่น XS หน้าจอ 5.8 นิ้ว และ รุ่น XS Max 6.5 นิ้ว พร้อมด้วยชิพ A12 Bionic อันทรงพลังและระบบกล้องถ่ายรูปเลนส์คู่ ระบบหน้าจอ Super Retina ที่สวยงามคมชัด พร้อมระบบ Face ID® ที่เร็วขึ้น, เสียงสเตอริโอที่ให้มิติเสียงกว้างขึ้น และรองรับการใช้งาน 2 ซิม

วัสดุตัวเครื่องประกอบจากกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน พร้อมขอบ stainless steel วัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม มีความคงทนและสวยงาม การทำงานของ iPhone XS และ XS Max มีความแม่นยำและทรงพลังมากขึ้น และอีกระดับของความสามารถในการทนน้ำและฝุ่น

ข้อมูลทั่วไปของ iPhone Xs

  • ขนาด 6 x 70.9 x 7.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 177 กรัม
  • มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ ขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมจอ Super AMOLED อัตราส่วน 19.5:9
  • ความละเอีดย 2436×1125,458 ppi
  • ชิปเซ็ตประมวลผล A12 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM)
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) 64GB, 128GB, 256GB
  • รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)
  • กล้องด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  f/1.8, 28mm, 1.4µm + 12 ล้านพิกเซล  f/2.4, 52mm, 1.0µm
  • กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล f/2.2
  • ระบบปฏิบัติการ iOS 12
  • รองรับ Face ID
  • รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
  • คุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
  • รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด รองรับการใช้งาน 2 Sim แบบ Nano-SIM และ e-SIM แบบดิจิตอลเหมือนใน Apple Watch Series 4
  • มาพร้อมกับสีทอง (Gold)ซึ่งเป็นสีใหม่
  • ราคาเริ่มต้น $999 หรือประมาณ 32,600 บาท

ข้อมูลทั่วไปของ iPhone Xs Max

  • มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ ขนาด 5 นิ้ว มาพร้อมจอ Super Retina OLED display ความละเอียดระดับ 2688×1242, 458 ppi
  • ขนาด 5 x 77.4 x 7.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 208 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล A12 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM)4 GB
  • หน่วยความจำภายใน (ROM)64GB, 256GB และ 512GB
  • รองรับการทำงาน 2 ซิม (Dual SIM)เป็นแบบ ซิมกาดร์ 1 อัน และซิมแบบที่ใส่ใน APPle What อีกหนึ่งมันคือซิมฝัง แต่ในจีนใส่ซิมได้สองอัน
  • กล้องด้านหลังความละเอียด 12  ล้านพิกเซล f/1.8, 28mm, 1.4µm +12 ล้านพิกเซล f/2.4, 52mm, 1.0µm
  • กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล f/2.2
  • แบตเตอรี่ความจุ – mAh
  • ระบบปฏิบัติการ iOS 12
  • รองรับ Face ID
  • รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
  • คุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
  • รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด รองรับการใช้งาน 2 Sim แบบ Nano-SIM และ e-SIM แบบดิจิตอลเหมือนใน Apple Watch Series 4 แต่ในเมืองจีนจะเป็นถาดใส่ซิม 2 ซิมจริงๆ
  • มาพร้อมกับสีทอง (Gold)ซึ่งเป็นสีใหม่
  • ราคา $1099 หรือประมาณ 36,000 บาท

มาถึงอีกรุ่น iPhone Xr มาพร้อมกับชิพ A12 Bionic Chip เหมือนใน iPhone Xs และ iPhone Xs Max ดีไซน์แบบกระจกและอะลูมิเนียมที่เป็นหน้าจอทั้งหมด พร้อมด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งเป็น LCD ที่ล้ำสมัยที่สุดในสมาร์ทโฟน ตัวเครื่องแบบใหม่อันงดงามนี้ทำมาจากกระจกและอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ทำให้สามารถทนน้ำและฝุ่นได้ที่ระดับ IP67

ข้อมูลทั่วไปของ iPhone Xr ราคาประหยัด

  • หน้าจอแสดงผขนาด 1 นิ้ว แบบ LCD ไม่มีขอบที่อยู่ในจอโค้งแบบใหม่ ความละเอียดระดับ 1792 x 828, 326 ppi, ความละเอียด 1.4  พิกเซล
  • ชิปเซ็ตประมวลผล A12 Bionic แบบ 7 นาโนเมตรใหม่ พร้อม Neural Engine รุ่นที่ 2
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) 64GB, 128GB และ 256GB
  • กล้องด้านหลังเลนส์เดี่ยวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล(wide-angle) รูรับแสง f/1.8
  • กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
  • ระบบปฏิบัติการ iOS 12 ระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก
  • รองรับการยืนยันตัวตนด้วย Face ID ได้เร็วยิ่งขึ้น
  • คุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
  • รองรับการใช้งาน 2 Sim แบบ Nano-SIM และ eSIM แบบดิจิตอลเหมือนใน Apple Watch Series 4
  • สีมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Black(ดำ),  White(ขาว), Red(แดง),  Yellow(เหลือง), Blue (ฟ้า / น้ำเงิน) และ Coral(ปะการัง)
  • ราคา $749 หรือประมาณ 26,300 บาท
  • วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม(สีขาว ดำ ฟ้า เหลือง ส้มคอรัล และ (PRODUCT RED)

—————————-

ติดตามข่าวสารจาก TKNonline
เฟสบุคแฟนเพจ https://www.facebook.com/TKNOnline
และเว็ปไซต์ https://tknonline.com
subscribe https://www.youtube.com/TKNonline