เหมือนค่ายเกมอื่นๆ ทั่วไปที่หันมาเอาดีกอบโกยเงินเข้าบริษัทเพิ่มด้วยการทำ “ของขายในเกม” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Microtransaction ออกจำหน่าย เพื่อเลี้ยงรายได้ให้เกมสามารถทำเงินเข้าผู้พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทางค่ายออกมาเปิดเผยถึงตัวเลขดังกล่าวว่า สามารถทำเงินไปได้ถึง 709 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยได้ถึง 2.1 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียวในไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถือว่าตกต่ำลงมา 323 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 31 เปอร์เซ็นต์ จากสถิติเดิมที่เคยทำไว้สูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3.1 หมื่นล้านบาท) ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยเกมที่ทำเงินจากของขายในเกมได้มากที่สุดคือ Black Ops 4 ที่มีผู้เล่นบางส่วนมองว่า เกมผลักดัน (แกมบังคับ) ให้ผู้เล่นจำยอมเสียตังค์มากเกินไป ทำให้ Activision ออกมาประกาศว่าจะปรับปรุง Black Market ให้ ‘เป็นมิตร’ กับผู้เล่นมากขึ้น ซึ่งก็ดูเหมือนจะช้าไป เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ย้ายไปเล่นเกมภาคใหม่อย่าง Modern Warfare กันแล้ว
และส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้หดหายไปนั้น ก็น่าจะเกิดจากการที่ทางค่ายตัดสินใจแยกทางกับค่าย Bungie เจ้าของลิขสิทธิ์ของแฟรนไชส์เกม Destiny นั่นเอง
Technopolis มหานครอัจฉริยะ
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.30 – 13.00 น.
ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ติดตามข่าวสารจาก TKNonline
เฟสบุคแฟนเพจ https://www.facebook.com/TKNOnline
Subscribe https://www.youtube.com/TKNonline
และเว็ปไซต์ https://tknonline.com/ http://www.splash-inter.co.th/