IBM ระงับการใช้งานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
Arvind Krishna CEO คนใหม่ของ IBM ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ได้ประกาศว่าจะ ระงับการจำหน่ายเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (IBM Facial Recognition) ของทางบริษัทลงเนื่องจากเทคโนโลยีนี้นั้นเป็นการ “ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล” ของผู้อื่น ไม่ว่าจุดประสงค์ในการใช้งานตั้งต้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม
โดย Krishna ได้ยกคำพูดของ Thomas J. Watson Jr. ประธานและลูกของผู้ก่อตั้งบริษัท IBM ที่ระบุไว้ว่า “ทาง IBM จะพิจารณาความสามารถ, ลักษณะนิสัยและประสบการณ์ทำงานในการจ้างงานเท่านั้น ไม่ว่าบุคคลนั้นๆ จะมีเชื้อชาติ หรือสีผิวใดก็ตาม” และจากข่าวการเสียชีวิตของ George Floyd, Ahmaud Arbery, Breonna Taylor และบุคคลอื่นๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ก็ทำให้ทางบริษัทได้ตัดสินใจออกมาประกาศว่าจะ ต่อต้านการ Racism ในทุกรูปแบบ
เทคโนโลยีการจดจำใบหน้านั้นมีการพัฒนาขึ้นมาโดยหวังว่ามันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้คนในสังคมขึ้นมาได้และช่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถระบุตัวผู้ร้ายที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงศตวรรษที่ผ่านมานี้มันก็ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วยความสามารถของ AI แต่เนื่องจากมันมักจะมีการพัฒนาจากองค์กรเอกชนที่ส่วนมากแล้วไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากรัฐบาลภายใต้กฎหมายการควบคุมความปลอดภัยที่มีความรัดกุมมากพอ จึงอาจทำให้มีการป้อนข้อมูลที่นำไปสู่อคติทางเชื้อชาติ, ศาสนา, อายุ หรือสีผิวต่างๆ ได้
แม้ว่า IBM จะได้พยายามพัฒนาความสามารถของ AI ของทางบริษัทและเพิ่มชุดข้อมูลที่จะช่วยลดอคติของการใช้งานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าลงอยู่เสมอ แต่ก็ได้มีข่าวว่าชุดข้อมูลที่ทางบริษัทนำเอามาฝึกฝน AI นั้นเป็นรูปภาพในเว็บไซต์ Flickr ที่ดึงมาใช้งานโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน แม้ว่ารูปภาพที่ดึงมาใช้งานจะเป็นรูปที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ก็ตามที
นอกจากนี้ทาง IBM ก็ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเดียวที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีการจดจำใบหน้านี้ และเทคโนโลยีของบริษัทอื่นๆ นั้นก็อาจไม่ได้มีการลดอคติทางการวิเคราะห์ของ AI ลงด้วย ดังนั้นแล้ว IBM จึงได้เสนอว่าเทคโนโลยีการจดจำใบหน้านี้ควรถูก ระงับการใช้ลง
